อย่าพึ่งทำหน้าสงสัย! ว่าหัวข้อของเราได้กล่าวถึงเรื่องการเก็บเงิน แล้วทำไมมันถึงมีคำว่า “ไม่ต้องเสี่ยงขาดทุน” รวมอยู่ด้วย ซึ่งที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า Lifestyle ของผู้คนในสมัยนี้ชอบมีวิธีเก็บเงินที่แตกต่างออกไปจากเดิมนั่น ซึ่งนั่นก็คือการนำเงินไปลงทุนเล่นหุ้น เล่นคริปโต ฯลฯ ซึ่งถ้ามันสามารถต่อยอดได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่! หากมันเสียขึ้นมาก็คงจะทำหน้ากันไม่ถูกเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมวิธีเก็บเงินแบบง่ายๆ ที่ได้ผลจริงแถมไม่ต้องไปเสี่ยงขาดทุนมาฝาก โดยวิธีเก็บเงินวิธีแรกก็คือ…
สะสมเงินตามวันที่
วิธีเก็บเงินวิธีแรกเลยก็คือให้คุณเก็บเงินตามจำนวนวันที่ อาทิเช่น วันที่ 1 เก็บ 1 บาท วันที่ 2 เก็บ 2 บาท จนไปถึงวันที่ 31 ก็เก็บ 31 บาท ซึ่งแม้ว่ามันอาจจะดูเป็นจำนวนเงินที่เล็กน้อยแต่การเก็บเงินวิธีนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกว่าไม่กดดันจนมากเกินไป หรือหากใครชอบความท้าทายแล้วล่ะก็ คุณสามารถเปลี่ยนจากเก็บเงินตามวันที่ เป็นเก็บเงินตามจำนวนวันในรอบปีก็ได้ เช่น วันที่ 1 ของปีเก็บ 1 บาท วันที่ 75 ของปีเก็บ 75 บาท วันที่ 258 ของปีเก็บ 258 จนครบวันที่ 365 ของปีก็ใส่ไปเลย 365 บาท ซึ่งวิธีเก็บเงินวิธีนี้จะหนักในช่วงท้ายๆ สักหน่อย แต่รับรองเลยว่าคุณจะมีเงินเก็บนับหมื่นบาทในยามสิ้นปีอย่างแน่นอน
เลือกเก็บเฉพาะแบงค์หรือเหรียญที่กำหนด
วิธีเก็บเงินวิธีนี้เป็นวิธียอดฮิตที่หลายๆ คน มักจะทำกัน ซึ่งนั่นก็คือการเก็บแบงค์หรือเหรียญที่เราได้กำหนดไว้ อาทิเช่น คุณตั้งใจจะเก็บแบงค์ 50 บาท ซึ่งพอได้รับแบงค์ 50 บาท มาก็ให้คุณเก็บใส่กระปุกในทันทีห้ามนำออกมาใช้อย่างเด็ดขาด! แต่หากคุณคิดว่าการเก็บแบงค์ 50 บาท มันยากไป ก็อาจจะเปลี่ยนมาเป็นเหรียญก็ได้เช่นกัน
หักเก็บเศษเงินจากเงินเดือน
หากคุณไม่ถนัดการเก็บเงินแบบยิบๆ ย่อยๆ แล้วล่ะก็ วิธีการเก็บเงินที่เรากำลังจะกล่าวถึงนี้คงจะเหมาะสมกับคุณเป็นอย่างมาก ซึ่งนั่นก็คือการ “หักเก็บเศษเงินเดือน” ที่ได้มาเข้าบัญชี อาทิเช่น เงินเดือน 20,850 บาท ก็ให้คุณหักเก็บเงินหลักร้อยคือ 850 เข้าบัญชีเงินเก็บในทันที ซึ่งถ้าทำแบบนี้เป็นประจำทุกๆ เดือน เรารับรองเลยว่าคุณจะมีเงินเก็บอย่างแน่นอน
ซื้อเท่าไหร่เก็บเท่านั้น
สำหรับใครที่เป็นสายช็อป คงจะต้องมาลองวิธีเก็บเงินวิธีนี้กับแบบด่วนๆ โดยขั้นตอนการเก็บเงินเลยก็คือ เมื่อไหร่ที่คุณต้องการที่จะซื้อสินค้า(ฟุ่มเฟือย) ก็ให้คุณเก็บเงินใส่กระปุกตามราคาของสินค้าชิ้นนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น คุณต้องการซื้อน้ำหอมในราคา 3,500 บาท ก็ให้คุณเตรียมเงินทั้งหมดไว้ 7,000 บาท เพื่อนำไปซื้อน้ำหอมครึ่งหนึ่ง เก็บอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถ้าคุณทำได้แล้วล่ะก็การมีเงินเก็บแบบเป็นก้อนก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป อีกทั้งมันจะช่วยให้คุณได้มีเวลาพิจารณาความต้องการที่แท้จริงด้วยว่าสินค้าชิ้นนั้นมีความจำเป็นหรือไม่ ?
แต่ละวิธีเก็บเงินที่เราได้กล่าวไปนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีเก็บเงินที่ทุกคนสามารถทำได้อย่างแน่นอน แต่! มันยังมีอีกหนึ่งวิธีเก็บเงินที่ได้ผลดีและดูคุ้มค่ามากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งนั่นก็คือ “การทำประกันชีวิต” ที่นอกจากคุณจะได้รับเงินก้อนเมื่อครบกำหนดแล้ว คุณยังจะได้กำไรอีกด้วย และที่สำคัญมากที่สุดเลยก็คือเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันจนคุณเสียชีวิต เงินก้อนนี้ก็จะไม่ศูนย์เปล่า เพราะมันจะกลายเป็นมรดกที่ทวีคูนมูลค่าให้แก่ทายาทของคุณ เรียกง่ายๆ ว่าการทำประกันชีวิตนั้นมีแต่ได้กับได้อย่างแท้จริง! ซึ่งคุณสามารถดูรายละเอียดแผนประกันชีวิตจากบริษัทประกันชั้นนำเจ้าต่างๆ ได้ที่ Rabbit Care